โดยขบวนรถนำเที่ยวที่ 921 ออกจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ตั้งแต่เช้าตรู่ เวลา 06.00 น. (หกโมงตรง) โดยขบวนรถจะหยุดรับส่งผู้โดยสารที่สถานีรถไฟ ชุมทางบางซื่อ สถานีดอนเมือง (ยกระดับ) สถานีรังสิต สถานีอยุธยา สถานีสระบุรี ขบวนรถพิเศษนำเที่ยวมีที่นั่งแบบพัดลมและแบบปรับอากาศ แบบปรับอากาศจะเป็นรถนอน JR เบาะสีแดงและรถนั่งปรับอากาศแบบ OTOP ตู้สีกรมท่า ส่วนสำหรับใครที่อยากเก็บบรรยากาศแบบจุกๆ แน่นอนก็ต้องมีรถพัดลม สำหรับรถพัดลมจะมี 2 แบบคือ รถพัดลมที่เป็นตู้โถง ตู้โถงจะที่นั่งคล้ายๆรถไฟฟ้า BTS MRT และรถนั่งชั้นสามพัดลม โดยบนขบวนรถก็จะมีแจกแผ่นพับเกี่ยวกับการท่องเที่ยวบริเวณรอบๆเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และมีเจ้าหน้าที่คอยแนะนำและประชาสัมพันธ์ และเล่นเกมส์พร้อมกับเเจกของรางวัลเล็กๆน้อยๆบนขบวนรถ
สำหรับใครที่ยังไม่ได้ทานอาหารเช้ามาและไม่รู้จะทานอะไร บนขบวนรถก็จะมีรถเสบียงปรับอากาศขายอาหาร ซึ่งดัดแปลงมาจากรถนอนชั้น 1 (ในอดีตรถเสบียงขายอาหารปรับอากาศรุ่นเก่าเคยพ่วงในขบวนรถด่วนพิเศษนครพิงค์ที่1/2 ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 13/14 กรุงเทพ-เชียงใหม่ และขบวนสายใต้ระหว่างประเทศขบวนที่35/36 กรุงเทพ-หาดใหญ่-บัตเตอร์เวิร์ธ) สำหรับเมนูบนรถเสบียงที่อยากแนะนำคือเมนู ข้าวหมูแดงหมูกรอบ ราคา 70 บาท นอกจากนั้นก็มีลูกชิ้นนึ่ง เบอร์เกอร์ไก่ เครื่องดื่มต่างๆ กาแฟ โอวัลติน และขนมขบเคี้ยว รวมถึงเครื่องดื่มต่างๆ (ป.ล ราคาอาหารในรถเสบียงอาจจะสูงกว่าข้างนอกเล็กน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เช่า)
เมื่อขบวนรถมาถึงจุดชมวิวรถไฟลอยน้ำขบวนรถก็จะให้นักท่องเที่ยวได้ลงไปเก็บภาพ และบรรยากาศจุดชมวิวรถไฟลอยน้ำ ประมาณ 20 นาที และหลังจากนั้น ขบวนรถก็จะพานักท่องเที่ยวเดินทางไปยังสถานีรถไฟโคกสลุง สำหรับสถานีรถไฟโคกสลุงเป็นสถานีรถไฟที่อยู่กลางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งที่นั้นก็จะมีตลาดเล็กๆ ที่ชาวบ้านได้นำสินค้า OTOP หรือสินค้าท้องถิ่น มาขายให้นักท่องเที่ยวในราคาย่อมเยาว์ หรือราคามิตรภาพ สำหรับใครที่จะหาอาหารกลางวันทานก็สามารถซื้อได้ที่นี่ โดยจะมีทอดมันปลากราย และปลาทอด ซึ่งเป็นปลาที่จับมาจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์แบบสดๆเลย โดยมีเวลาให้นักท่องเที่ยวที่นี่ 30 นาที
จากนั้นขบวนรถก็จะมาส่งนักท่องเที่ยวที่ป้ายหยุดรถเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ก่อนที่จะไปทำความสะอาดขบวนรถที่สถานีแก่งเสือเต้น โดยมีเวลาให้นักท่องเที่ยวทั้งหมด 5 ชั่วโมง โดยมีตัวเลือกต่างๆให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวทั้งในเขื่อนและนอกเขื่อนดังต่อไปนี้
เที่ยวนอกเขื่อน
นักท่องเที่ยวสามารถที่จะนั่งรถตู้ไปชมทุ่งทานตะวันที่บ้านกล้วย & ไข่ และชมสวนเฟริ์นยักษ์ที่ไร่ทรัพย์ประยูรได้ โดยทั้ง 2 ที่ มีค่าเฟ่สวยๆและเครื่องดื่มขาย สำหรับที่ทุ่งทานตะวันบ้านกล้วย & ไข่มีมุมสวยๆให้ได้ถ่ายรูปมากมาย โดยมีรถกล๊อฟบริการเข้าไปภายในทุ่งทานตะวัน ซึ่งทืี่จังหวัดสระบุรีและลพบุรีนิยมปลูกต้นทานตะวันมาก สหรับหรับใครที่จะนักรถตู้ไปเที่ยวทุ่งทานตะวันและสวนเฟริ์นยักษ์ค่ารถตู้อยู่ที่คนละ 70 บาท
เที่ยวในเขื่อน
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเที่ยวในเขื่อน แนะนำให้นั่งรถตัวหนอนเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ค่ารถตัวหนอนอยู่ที่คนละ 30 บาท โดยรถตัวหนอนจะพานักท่องเที่ยวชมวิวบนสันเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งบนรถจะมีมัคคุเทศก์น้อยคอยบรรยายและให้ข้อมูลแก่นักท่องเที่ยวเรื่องเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จากนั้นรถตัวหนอนจะจอดแวะให้นักท่องเที่ยวได้แวะนมัสการพระพุทธรัตนมณีมหาบพิตรชลสิทธิ์มงคลชัย หรือ หลวงปู่ใหญ่ป่าสัก และให้เวลานักท่องเที่ยวได้ซื้อของฝากเป็นเวลา 10 นาที โดยของฝากที่แนะนำได้เเก่ เมล็ดทานตะวันที่มีทั้งรสเค็มและรสหวาน และพานักท่องเที่ยวกลับมาส่งที่เดิม โดยใช้เวลาทั้งหมด 1 ชั่วโมง หากมีเวลาเหลือก็สามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ได้
สำหรับขบวนรถไฟเที่ยวขากลับเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์-กรุงเทพ (หัวลำโพง) จะออกจากที่หยุดรถเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เวลา 15.30 น. และถึง สถานีกรุงเทพ หัวลำโพงเวลา 18.50 น. ก็เป็นทริปท่องเที่ยวกับรถไฟอีกทริปนึงในฉบับเช้าเย็นกลับ โดยการรถไฟแห่งประเทศไทยจัดขบวนรถพิเศษนำเที่ยวที่ 921/926 ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-มกราคมของทุกปี รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่ Call Center 1690 และ เพจเฟสบุ๊กทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ตลอด 24 ชั่วโมงครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น